เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คู่หูเดินทาง
วัน หยุดสุดสัปดาห์นี้ หากเพื่อน ๆ ต้องการหลบหนีจากความวุ่นวายของเมืองกรุง ไปสู่โลกในมุมใหม่ที่เงียบสงบ แวดล้อมด้วยภูเขาเขียว ๆ น้ำตกสวย ๆ แถมยังซุกซ่อนความตื่นเต้นเอาไว้ภายใต้ความนิ่ง กระปุกท่องเที่ยวขอแนะนำ "นครนายก" เมืองที่มีขนาดไม่ใหญ่ เหมาะกับการท่องเที่ยวพักผ่อน อีกทั้งยังไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก แต่อุดมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย โดยเฉพาะการไปล่องแก่งมันส์ ๆ เพิ่มความท้าทายให้กับตัวเองที่ "ล่องแก่งแม่น้ำนครนายก"
แม่น้ำนครนายก มี ต้นกำเนิดจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เกิดจากลำธารหลายสายมารวมตัวกัน เช่น คลองตะไคร้ คลองนางรอง มารวมตัวกันเป็นแม่น้ำไหลผ่านจังหวัดนครนายก โดยจุดเริ่มต้นของการล่องแก่งแม่น้ำนครนายกอยู่ที่บริเวณเชิงสะพานท่าด่าน หลังเขื่อนคลองท่าด่าน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และจะไปสิ้นสุดการล่องที่บริเวณบ้านวังยาว
สำหรับการล่องแก่งที่แม่น้ำนครนายก มีระดับความยากและง่ายตั้งแต่ระดับ 3-5 สร้างความสนุกได้ทุกเพศทุกวัย ตลอดทั้งปี (กระแสน้ำจะไหลแรงในฤดูฝนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – ตุลาคม) โดยจุดเริ่มต้นผจญภัยการล่องแก่งแม่น้ำนครนายกอยู่บริเวณเชิงสะพานท่าด่าน เลาะเลี้ยวไปตามลำน้ำนครนายก ในระดับความแรงของสายน้ำที่ 1-3 ผ่านแก่งต่าง ๆ ที่สร้างความสนุกตื่นเต้นตลอดระยะทางในการล่องแก่งประมาณ 2 ชั่วโมง
ส่วนแก่งต่าง ๆ ที่จะล่องผ่าน ได้แก่ แก่งโขดคุ้ง มีลักษณะเป็นโขดหินโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำในช่วงฤดูร้อน แต่จะจมลงไปในน้ำยามฤดูฝน, เกาะแก่ง มีลักษณะเช่นเดียวกันกับแก่งโขดคุ้ง ถ้าในช่วงฤดูร้อนจะมองเห็นเกาะแก่งนี้ แต่ถ้าอยู่ในช่วงฤดูฝน กระแสน้ำจะท่วมเกาะแก่งนี้จนไม่สามารถมองเห็นได้
และแก่งสุดท้ายที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของการล่องแก่งแห่งนี้ คือ แก่งหินสามชั้น เพราะก่อนจะถึงตัวแก่งสามชั้นระยะทางไม่กี่เมตรจะถึงโค้งหักศอกก่อน ซึ่งนักล่องแก่งควรระมัดระวังตัวและพยายามบังคับฝีพายดี ๆ เพราะจากนี้จะได้พบกับแก่งหินสามชั้นที่มีลักษณะเทลาดเอียงลงมาเป็นขั้น บันได ระยะทางยาวประมาณ 50 เมตร กระแสน้ำจะไหลวนลงมากระทบกับโขดหินน้อยใหญ่ที่จมอยู่ใต้น้ำ จนเกิดเป็นลูกคลื่นม้วนตัวเข้าหาหินสูงประมาณหนึ่งเมตร เป็นจุดท้าทายของนักพายเรือคายัคและแคนู ซึ่งจะมาประลองกำลังความสามารถกันที่บริเวณแก่งสามชั้นแห่งนี้
อย่างไรก็ตาม นอกจากกิจกรรมที่ทำให้หัวใจสูบฉีดพองโตอย่างการล่องแก่งแล้ว การขับรถ ATV ในเส้นทางธรรมชาติแบบลุย ๆ ก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ไม่ควรพลาด เพราะคุณจะได้สนุก สุดมันส์ ทั้งลงห้วย ลุยโคลน ผ่านฝายน้ำล้น และเพลิดเพลินกับเรือกสวนตลอดสองข้างทาง
ทั้งนี้ สำหรับค่าใช้จ่ายในการล่องแก่ง : เรือยาง 8-10 ที่นั่ง ราคา 1,500 บาท / ลำ และ เรือคายัค 2 ที่นั่ง ราคา 350 บาท / ท่าน






สามารถเดินทางได้ 2 เส้นทาง คือ เส้นทางที่ 1 ไปตามทางหลวงหมายเลข 305 เลียบคลองรังสิตผ่านอำเภอองครักษ์ ระยะทางประมาณ 105 กิโลเมตร เส้นทางที่ 2 ไปตามทางหลวงหมายเลข 1 เลี้ยวขวาที่แยกหินกองไปตามถนนสุวรรณศร (ทางหลวงหมายเลข 33) จนถึงนครนายก ระยะทางประมาณ 137 กิโลเมตร หรือทางที่สองใช้ทางพิเศษอุดรรัถยา สอบถามเพิ่มเติม โทรศัพท์ 1543























ขอขอบคุณข้อมูลจาก


