|
ประโยชน์ของเลซิติน ประโยชน์เลซิติน เลซิติน ประโยชน์ เลซิติน กินตอนไหน คำค้น : เลซิติน |
|
|
|
ประโยชน์ของเลซิติน ประโยชน์เลซิติน เลซิติน ประโยชน์ เลซิติน กินตอนไหน
เลซิตินไขมันที่จำเป็นต่อเยื่อหุ้มเซลล์
"เลซิติน" ไขมันที่จำเป็นต่อเยื่อหุ้มเซลล์
"เลซิติน" (Lecithin) เป็นไขมันชนิดฟอสโฟไลปิด (Phospholipid) ที่มีความจำเป็นต่อเซลล์ทุกชนิดในร่างกาย เยื่อหุ้มเซลล์ (Cell membrane) ซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุมการเข้าออกของสารอาหารจะมีลักษณะแข็งและขาดความ ยืดหยุ่นถ้าไม่มีเลซิติน นอกจากนี้ ยังพบว่า เลซิตินเป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มสมอง กล้ามเนื้อ และเซลล์ประสาท เลซิตินเองมีคุณสมบัติเป็น emulsifier หรือสารที่ทำให้น้ำกับน้ำมันเข้ากันได้ ดังนั้น จะพบว่าได้มีการนำมาใช้ในการควบคุมคอเลสเตอรอลในเลือดกันอย่างแพร่หลาย
แหล่งที่พบ : คงเป็นที่ทราบกันดีว่าเลซิตินพบได้มากในถั่วเหลือง แต่แหล่งอาหารที่ให้เลซิตินยังมีอีกมากมาย อาทิ ไข่แดง ตับ ข้าวโอ๊ต กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก เนื้อสัตว์ ปลา บริวเวอร์ยีสต์ และพืชบางชนิด ทั้งนี้อาจจะรวมถึงผลิตภัณฑ์ Multi - Vitamin ที่มีเลซิตินผสมอยู่ด้วย
ส่วนประกอบ : ฟอสฟาติดิลโคลีน (Phosphatidylcholine) เป็นสารสำคัญที่พบในเลซิติน ซึ่งสารนี้จะให้วิตามินบีชนิดหนึ่ง เรียกว่า โคลีน สาร โคลีนเป็นสารต้นตอในการสังเคราะห์สารสื่อประสาท อะเซททิลโคลีน (Acetylcholine) ส่วนประกอบอื่นๆ ของเลซิติน ได้แก่ ฟอสฟาติดิลอิโนซิทอล ฟอสฟาติดิลเอททาโนลามีน กรดไลโนเลอิก ฯลฯ
ประโยชน์
- ช่วยป้องกันและสลายคอเลสเตอรอล หรือไขมันที่อุดตันในหลอดเลือด จึงนิยมในกันมากในผู้ที่มีปัญหาไขมันอุดตันในหลอดเลือด
- Phosphaticylcholine ซึ่งให้สารโคลีน เป็นสารตั้งต้นของสารสื่อประเภท สารอะเซททิลโคลีน จะช่วยให้ความจำและความสามารถในการเรียนรู้ดีขึ้น
- ช่วยให้การทำงานของตับมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ลดการอุดตันของถุงน้ำดี (Gall Stones)
- ให้สารอิโนซิทอล (Inositol) ซึ่งเป็นส่วนที่ช่วยบำรุงเซลล์ประสาท ทำให้การทำงานของระบบประสาทดีขึ้น
- การใช้เพื่อป้องกัน และรักษาโรคความจำเสื่อม (Alzheimer's disease) ยังอยู่ในระหว่างการศึกษา
รูปแบบผลิตภัณฑ์ :
 เลซิตินที่วางจำหน่ายในท้องตลาดมีอยู่สองชนิด คือ แกรนูล และแคปซูล ชนิด แกรนูลนิยมรับประทาน โดยผสมกับเครื่องดื่มชนิดต่างๆ เช่น นม นมเปรี้ยว น้ำผลไม้ ฯลฯ และนิยมผสมหรือโปรยบนอาหารประเภทต่างๆ อีกด้วย
ปริมาณของเลซิตินที่แนะนำให้รับประทาน คือ 500-2,400 มิลลิกรัมต่อวัน และควรรับประทานหลังอาหาร
ที่มา : เว็บไซต์ scimath |
|
|
เนื้อหาที่คุณอาจกำลังค้นหา :- |
|
|
|
เกมส์ปลูกผัก เกมส์เครื่องบิน เกมส์ต่อสู้ เกมส์ยิง เกมส์กีฬา เกมส์สนุกเกอร์เกมส์ผจญภัย เกมส์ผี |
|
|
|
|
|
|
ท่านอาจกำลังสนใจสิ่งนี้อยู่ |
|
|
|
|